สำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียน นอกจากพิซซ่า ก็มีพาสต้านี่แหละที่ครองใจนักชิมจำนวนมาก ด้วยความหลากหลายของรูปทรง รสชาติ และวิธีการปรุง ทำให้พาสต้ากลายเป็นอาหารที่สามารถสร้างสรรค์ได้อย่างไม่รู้จบ
แล้วพาสต้ามีกี่แบบ เหมือนกันกับสปาเกตตีไหม ทำไมเรียกคนละชื่อ ? เชื่อว่าหลายคนต้องเคยสงสัยแบบนี้แน่นอน เพราะเข้าร้านอาหารอิตาเลียนทีไรก็มีเมนูเส้นให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทำเอางงไปเลยว่าจะสั่งเส้นไหนดี เอาเป็นว่าบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักเส้นพาสต้าแบบต่าง ๆ รวมถึงเส้นแบบไหนควรเลือกกินกับซอสอะไรจึงจะอร่อยที่สุด ไปติดตามกันเลย !
เส้นพาสต้ามีกี่แบบ ? รู้จัก 15 ชื่อนี้ รับรองสั่งอาหารคราวหน้าไม่มีงง
1. สปาเกตตี (Spaghetti) เส้นกลมยาว คลาสสิก
น่าจะเป็นชื่อที่ทุกคนคุ้นหูและรู้จักกันดี เพราะสปาเกตตีเป็นเส้นพาสต้าที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยลักษณะเด่นคือเป็นเส้นกลมยาว มีความยืดหยุ่นดี กินคู่กับซอสอะไรก็อร่อยนัว ไม่ว่าจะเป็นซอสมะเขือเทศ ซอสเนื้อ (Bolognese) หรือแม้แต่ซอสครีม ส่วนใหญ่จะเสิร์ฟพร้อมกับลูกชิ้นเนื้อ ที่เรียกว่า “สปาเกตตีมีตบอล” นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาผัดกับกระเทียมและน้ำมันมะกอกเพื่อทำเมนูง่าย ๆ อย่าง “Agilo e Olio” ได้อีกด้วย
2. เพนเน (Penne) เส้นท่อเฉียง ดีไซน์เก๋ไก๋
เส้นพาสต้าสุดเก๋ไม่มีใครเกิน มีลักษณะเป็นท่อสั้น ๆ ปลายตัดเฉียงคล้ายปากกา (ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “Penne” ที่ในภาษาอิตาเลียนแปลว่า “ปากกา” ด้วยนะ !) ความที่เป็นท่อกลวง ทำให้เพนเนสามารถอุ้มซอสได้ดี เหมาะสำหรับเมนูที่มีซอสเข้มข้น เช่น ซอสอาราเบียตตา (Arrabbiata) หรือซอสวอดก้า (Vodka Sauce) นอกจากนี้ ยังนิยมนำมาทำพาสต้าอบชีส (Baked Pasta) เพราะเนื้อสัมผัสที่แน่น รวมไปถึงรูปทรงที่ช่วยให้ชีสเกาะติดได้ดี บอกเลยว่าคนรักชีสไม่ควรพลาดเมนูนี้อย่างแรง !
3. ฟูซิลี (Fusilli) เส้นเกลียว น่ารักน่าหม่ำ
ด้วยลักษณะเส้นที่เป็นเกลียวคล้ายสว่าน ทำให้ฟูซิลีมีพื้นผิวที่มากกว่าเส้นพาสต้าแบบอื่น ๆ ซึ่งช่วยให้ซอสเกาะติดเส้นได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับทำเมนูสลัดพาสต้าเย็น (Pasta Salad) เพราะเป็นประเภทเส้นที่สามารถคลุกเคล้ากับผักและน้ำสลัดได้อย่างทั่วถึง ได้สัมผัสความอร่อยแบบเต็ม ๆ ทุกคำ ส่วนซอสที่เข้ากันได้ดีจะเป็นซอสเพสโต (Pesto) เนื่องจากใบกะเพราและเนยในซอสจะแทรกตัวเข้าไปในร่องเกลียวได้อย่างลงตัว แค่คิดก็น้ำลายสอแล้ว !
4. เฟตตูชินี (Fettuccine) เส้นแบนกว้าง ตอบโจทย์คนชอบเส้นเต็มคำ
เส้นพาสต้าแบบแบนและกว้าง มีความหนาพอประมาณ ทำให้สามารถรับรสชาติของซอสที่มีเนื้อสัมผัสครีมมี่ได้ดี โดยเมนูที่โด่งดังที่สุด ได้แก่ “Fettuccine Alfredo” ซึ่งเป็นพาสต้าที่คลุกเคล้ากับซอสครีมเนยและชีสพาร์เมซาน หรือใครชอบกินกับซอสเนื้อและซอสเห็ดก็ไม่ติด เพราะความกว้างของเส้นจะช่วยรับน้ำหนักของซอสที่มีเนื้อสัมผัสแน่นได้แบบเต็มคำ
5. ลิงกวินี (Linguine) เส้นแบนเรียว เพื่อคนรักอาหารทะเล
มีลักษณะคล้ายเส้นสปาเกตตีแต่จะแบนกว่าเล็กน้อย โดยชื่อ “Linguine” ในภาษาอิตาเลียน แปลว่า “ลิ้นเล็ก ๆ” ซึ่งด้วยความที่บางและเรียวนี้เองที่ทำให้ลิงกวินีเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับอาหารทะเล โดยเฉพาะเมนู “Linguine alle Vongole” หรือลิงกวินีหอยลายที่ปรุงด้วยกระเทียม น้ำมันมะกอก และไวน์ขาว ส่วนซอสที่มักกินคู่กัน ได้แก่ ซอสเพสโตหรือซอสมะเขือเทศแบบเบา ๆ
6. ฟาร์ฟาลเล (Farfalle) เส้นผูกโบ หน้าตาบ้องแบ๊ว
น่ารักจนอดหวีดด้วยความเอ็นดูไม่ได้จริง ๆ สำหรับเส้นพาสต้าฟาร์ฟาลเล ที่มีลักษณะคล้ายโบจิ๋วแสนกุ๊กกิ๊ก เหมาะสำหรับทำเมนูสลัดพาสต้าและอาหารเด็ก เป็นอีกหนึ่งเส้นที่สามารถอุ้มซอสได้ดีเพราะมีร่องตรงกลาง ไม่ว่าจะเป็นซอสครีม ซอสมะเขือเทศ หรือแม้แต่น้ำสลัดก็อิ่มอร่อยได้ถ้วนหน้า หรือใครจะนำมาทำพาสต้าผัดกับผักละเนื้อสัตว์ชิ้นเล็ก ๆ ก็ได้เช่นกัน
7. ราวิโอลี (Ravioli) พาสต้าไส้แน่น อิ่มท้องสุด ๆ
เส้นพาสต้าที่มีลักษณะเป็นแผ่นแป้งบาง ๆ สองแผ่นประกบกันแล้วมีไส้อยู่ตรงกลาง เช่น ไส้ชีส ไส้เนื้อ ไส้ผัก หรืออาหารทะเลก็ได้ โดยมักเสิร์ฟพร้อมซอสเบา ๆ อย่างซอสเนย ซอสมะเขือเทศ และน้ำมันมะกอก เพื่อไม่ให้กลบรสชาติของไส้มากเกินไป สำหรับใครที่อยากกินเมนูเส้นแบบอิ่มท้องและให้พลังงานสูง เส้นราวิโอลีถือว่าตอบโจทย์มาก !
8. ลาซานญา (Lasagna) พาสต้าแผ่นใหญ่ สำหรับเมนูอบชีส
อีกหนึ่งชื่อที่คนไทยบางคนอาจคุ้นหู คือ ลาซานญา เส้นพาสต้าแผ่นกว้างและแบน ใช้สำหรับทำเมนูอบ โดยการวางสลับชั้นกันระหว่างแผ่นลาซานญา ซอสเนื้อ ซอสเบชาเมล และชีส แล้วนำไปอบให้ชีสละลายจนออกเป็นสีน้ำตาล ใครคิดว่าเมนูเส้นเป็นเมนูเบา ๆ ไม่ค่อยอิ่มท้องเท่าเมนูข้าว บอกเลยว่าไม่ใช่กับลาซานญา เพราะเมนูนี้ให้พลังงานเยอะเพียงพอสำหรับการกินมื้อหนักเลยทีเดียว
9. ออเรคเคียตเต้ (Orecchiette) พาสต้ารูปหู เล็กจิ๋วแต่แจ๋ว
พาสต้าแสนอร่อยแต่หน้าตาแปลก ๆ คล้ายรูปหู (ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อในภาษาอิตาเลียนที่แปลว่า “หูเล็ก ๆ” อีกเช่นกัน) ด้านหนึ่งเว้าเข้า อีกด้านนูนออก ทำให้สามารถรองรับซอสและส่วนผสมอื่น ๆ ได้ดี มักนำมาทำเมนูพาสต้าผัดกับผักใบเขียว เช่น บร็อกโคลีหรือผักกาดหอม และไส้กรอกอิตาเลียน ยิ่งกินคู่กับซอสเพสโต้ยิ่งอร่อยกลมกล่อม
10. บูคาตินี (Bucatini) สปาเก็ตตีแบบกลวง เพื่อคนรักซอส
ทุกเส้นล้วนมีคุณสมบัติในการอุ้มซอสหมดเลย แล้วมีเส้นไหนไหมที่คือที่สุดของที่สุด ? คำตอบอยู่ที่บูตาตินี ! เส้นพาสต้าที่มีลักษณะคล้ายสปาเกตตีแต่มีรูกลวงตรงกลาง นำมาคลุกกับซอสรสชาติเข้มข้นขนาดไหนก็ไม่หวั่น อย่าง “Bucatini all’Amatriciana” ที่เป็นพาสต้าซอสมะเขือเทศ เสริมความนัวด้วยเบคอนและชีสเพโคริโน ก็เป็นเมนูยอดนิยมสำหรับเส้นพาสต้าประเภทนี้เลย หรือใครจะใช้ซอสครีมและซอสเนื้อแทนก็อร่อยไม่แพ้กัน
11. ริกาโตนี (Rigatoni) เส้นท่อใหญ่ รสชาติเข้มนัว
เส้นพาสต้าทรงกระบอกขนาดใหญ่ มีร่องตามความยาวของเส้นเพื่อให้ซอสเกาะติดได้ดี ด้วยขนาดที่ใหญ่และแข็งแรง ทำให้ริกาโตนีเป็นเส้นอีกหนึ่งประเภทที่เหมาะกับซอสที่มีเนื้อสัมผัสหนักแน่น อย่างซอสเนื้อหรือซอสผัก นิยมนำมาทำพาสต้าอบเพราะสามารถรับกับส่วนผสมต่าง ๆ ได้ดี โดยเฉพาะเมนู “Rigatoni ai Forno” ที่อบกับมะเขือม่วง ซอสมะเขือเทศ และชีสมอซซาเรลลา
12. น็อคคี (Gnocchi) พาสต้ามันฝรั่ง นุ่ม ละมุนลิ้น
อาจจะแตกต่างจากเส้นพาสต้าชนิดอื่น ๆ นิดหน่อย เพราะน็อคคีเป็นเส้นที่ทำจากมันฝรั่งเป็นหลัก (แม้จะมีแป้งสาลีผสมอยู่บ้าง) มีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ นุ่ม ๆ มักเสิร์ฟคู่กับซอสเบา ๆ เช่น ซอสเนยหรือซอสมะเขือเทศ เพื่อไม่ให้กลบรสชาติและเนื้อสัมผัสอันละมุนลิ้นของตัวน็อคคี นอกจากนี้ ยังนิยมนำไปย่างหรือผัดให้ด้านนอกกรอบเล็กน้อย แต่ด้านในนุ่มละลายในปาก ให้เนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์
13. แคปเปลลินี (Cappellini) บางและเล็กที่สุดในบรรดาพาสต้า
สมฉายา “Angel Hair Pasta” สุด ๆ เพราะแคปเปลลินีเป็นเส้นพาสต้าที่บางและเล็กที่สุดในบรรดาพาสต้าทั้งหมด ด้วยความเบาบางของเส้น ทำให้แคปเปลลินีสุกเร็วมาก ใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น ! โดยจะเหมาะกับซอสเบา ๆ เช่น น้ำมันมะกอกกับกระเทียม หรือซอสมะเขือเทศสด สำหรับคนรักอาหารทะเล นอกจากลิงกวินีแล้ว สามารถเปลี่ยนมาลองแคปเปลลินีได้เหมือนกัน เพราะความบางของเส้นจะช่วยไม่ให้กลบรสชาติของอาหารทะเลที่มักจะค่อนข้างเบา
14. มักกะโรนี (Macaroni) เส้นโค้งสั้น คุ้นตาคนไทย
หากถามว่าเส้นพาสต้าชนิดไหนคุ้นตาคนไทยมากที่สุด ก็คงต้องตอบว่ามักกะโรนี เส้นพาสต้าที่มีลักษณะเป็นท่อโค้งสั้น ๆ นิยมนำมาทำเมนู “Mac and Cheese” ที่ผสมกับซอสชีสสุดเข้มข้น นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับการทำสลัดพาสต้าหรือซุปพาสต้า เพราะขนาดที่พอดีคำและรูปทรงที่โค้งงอจะช่วยให้ตักง่าย แต่สำหรับคนไทย ก็มีหลายคนนำมาดัดแปลงเป็นอาหารไทยเมนูต่าง ๆ เช่น มักกะโรผัดซอส ต้มมักกะโรนี
15. ออร์โซ (Orzo) พาสต้าเม็ดข้าว แข็งและลื่น
มีลักษณะคล้ายเม็ดข้าว แม้จะมีขนาดเล็ก แถมดูจากรูปก็ดูเหมือนจะแข็ง ๆ เหมือนข้าวสาร แต่ที่จริงแล้ว ออร์โซยังคงความลื่น เคี้ยวง่ายเหมือนเส้นพาสต้าทั่วไป โดยนิยมนำมาทำซุป สลัด หรือใช้แทนข้าวในเมนูรีซอตโต (Risotto) ก็ได้ และด้วยความที่มีขนาดเล็ก ทำให้ออร์โซสามารถดูดซับรสชาติของซอสและน้ำซุปได้ดี นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับการทำเมนูพาสต้าเย็น เพราะเส้นจะไม่เหนียวติดกันแม้เย็นตัวลง
อ่านมาถึงตรงนี้ เริ่มรู้สึกอยากลิ้มลองพาสต้าแบบต่าง ๆ กันแล้วใช่ไหมล่ะ ? หากกำลังมองหาร้านอาหารติดรถไฟฟ้า ร้านพาสต้าแถวชิดลม แวะมาที่ Mercury Ville @ Chidlom ได้เลย เพราะที่นี่มีร้านอาหารอิตาเลียนและอิตาเลียนฟิวชันชื่อดังมากมาย พร้อมเสิร์ฟเส้นพาสต้าสดใหม่ รสชาติต้นตำรับให้คุณได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นสปาเกตตีคาโบนาราคลุกซอสเข้มข้น เพนเนอบชีสหอม ๆ หรือลิงกวินีซีฟูดสุดพรีเมียม รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับรสชาติอิตาเลียนแท้ ๆ ที่จะทำให้คุณหลงรักพาสต้าแบบไม่รู้ลืม Buon appetite !
ข้อมูลอ้างอิง
- ทำความรู้จัก 12 เส้นพาสต้า แต่ละชนิด มีอะไรบ้าง รวมไว้ให้แล้ว!. สืบค้นเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567. จาก https://food.trueid.net/detail/gqJ0d0Q7D4GA.
- 27 Types of Pasta and Their Uses. สืบค้นเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567. จาก https://www.allrecipes.com/article/types-of-pasta/.