หม้อไฟจีน เป็นอีกหนึ่งอาหารยอดฮิตของคนยุคนี้ เพราะนอกจากจะเป็นอาหารที่รวมความอร่อยเอาไว้ในหม้อเดียวแล้ว ยังครบเครื่องไปด้วยเนื้อสัตว์ ผักสด เครื่องเทศ และน้ำซุปรสกลมกล่อม แถมหม้อไฟจีนยังมีหลากสไตล์ให้เลือกสรร เป็นตัวเลือกที่กินได้ไม่มีเบื่อ !
เพื่อให้สายหม้อไฟทุกท่านรับประทานหม้อไฟจีนได้ถึงเครื่องที่สุด วันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกันว่า หม้อไฟจีนมีกี่ประเภท พร้อมมีเคล็ดลับการทานหม้อไฟให้อร่อยฟินสุด ๆ มาฝากกัน !
หม้อไฟจีนคืออะไร ? ทำไมเป็นอาหารยอดฮิตของคนทุกยุคทุกสมัย
หม้อไฟจีน หรือ “หั่วกัว” (火锅) เป็นอาหารประเภทต้มที่ได้รับความนิยมมายาวนานในประเทศจีน ประกอบไปด้วยหม้อโลหะที่มีน้ำซุปเดือดอยู่ตรงกลาง บนโต๊ะอาหารผู้คนจะนั่งล้อมวงและใส่เนื้อสัตว์ ผัก เต้าหู้ วุ้นเส้น และอาหารอื่น ๆ ลงในน้ำซุปเพื่อต้มให้สุก ทั้งนี้ คำว่า “หั่ว” (火) ในภาษาจีน แปลว่า ไฟ หม้อไฟจึงสื่อถึงความโชคดี ความรุ่งเรือง และความอุดมสมบูรณ์ด้วย
ความนิยมของหม้อไฟจีนมีเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้:
- ความอร่อยและหลากหลาย: น้ำซุปมีหลายรสชาติ ผู้ทานสามารถเลือกวัตถุดิบตามชอบได้
- ความสะดวก: วัตถุดิบต่าง ๆ ถูกแบ่งสันปันส่วนเป็นชิ้น สะดวกต่อการต้มและทาน
- ความสนุกสนาน: การทานหม้อไฟเป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับการสังสรรค์ ผู้คนสามารถพูดคุยและทานอาหารไปพร้อมกัน เป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวกัน
- ความอบอุ่น: เหมาะสำหรับทานในอากาศหนาว หม้อไฟช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
- คุณค่าทางโภชนาการ: หม้อไฟมีผักและเนื้อสัตว์หลากหลายชนิด ช่วยให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
หม้อไฟจีนมีกี่ประเภท ?
โดยทั่วไป ชนิดของหม้อไฟจีนมีอยู่หลากหลายประเภทด้วยกัน ดังนี้ !
1. หม้อไฟเฉิงตู หรือสุกี้เสฉวน
หม้อไฟเฉิงตูหรือสุกี้เสฉวนเป็นหม้อไฟที่มีรสชาติเผ็ดร้อน เนื่องจากใช้พริกเสฉวนและเครื่องเทศจำพวกอบเชย ผิวมะกรูด เป็นหลักในการปรุงน้ำซุป น้ำซุปจะมีสีแดงเข้มจากพริกเสฉวน และมีรสชาติเข้มข้นจากการต้มด้วยกระดูกหมู
วัตถุดิบนิยม ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ เครื่องในสัตว์ต่าง ๆ เช่น กระเพาะ ตับ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผักสด เต้าหู้นานาชนิด และวุ้นเส้นที่ทำมาจากแป้งมัน เมื่อนำวัตถุดิบเหล่านี้มาต้มรวมกับน้ำซุปเฉิงตูร้อน ๆ จะได้รสชาติที่เข้มข้น หอมเครื่องเทศ และมีรสเผ็ดร้อนตามแบบฉบับของอาหารจีน
2. หม้อไฟฉงชิ่ง
หม้อไฟฉงชิ่งรสชาติคล้ายคลึงกับหม้อไฟเฉิงตู แตกต่างกันที่ระดับความเผ็ดร้อน หม้อไฟฉงชิ่งจะมีรสเผ็ดจัดจ้านยิ่งกว่า เนื่องจากใช้พริกเสฉวนในปริมาณมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังใช้เครื่องเทศรสจัดอื่น ๆ เช่น พริกป่น กระเทียม เป็นต้น ผสมลงในน้ำซุปด้วย สำหรับวัตถุดิบในการนำมาทำหม้อไฟสไตล์นี้ จะนิยมคล้ายคลึงกับหม้อไฟเฉิงตู คือสามารถใช้ได้ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ เครื่องในสัตว์ ผักสดนานาชนิด เต้าหู้ และวุ้นเส้น
3. หม้อไฟไหหลำ
น้ำซุปของหม้อไฟไหหลำมีรสชาติกลมกล่อมจากกระดูกหมูหรือไก่ เติมรสด้วยซีอิ๊วขาว เกลือ และพริกไทยเล็กน้อย การปรุงน้ำซุปแบบนี้จะทำให้ได้รสชาติที่ไม่จัดจ้านเกินไป จึงเหมาะแก่คนรักรสชาติอ่อน ๆ
วัตถุดิบที่นิยม ได้แก่ อาหารทะเลนานาชนิด เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา เนื้อสัตว์อื่น ๆ เช่น เนื้อหมู ไก่ รวมถึงผักสด ทำให้หม้อไฟไหหลำมีความหลากหลายและครบถ้วนทางด้านคุณค่าทางโภชนาการ
4. หม้อไฟกวางตุ้ง
หม้อไฟกวางตุ้งใช้น้ำซุปคล้ายกับหม้อไฟไหหลำ คือน้ำซุปจากกระดูกหมูหรือกระดูกไก่ ปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว ทว่าแตกต่างตรงที่วัตถุดิบที่นำมาต้มจะเน้นไปที่อาหารทะเลและเนื้อสัตว์เป็นหลัก มีผักสดน้อยกว่า
5. หม้อไฟแต้จิ๋ว
หม้อไฟแต้จิ๋วเป็นหม้อไฟที่มีต้นกำเนิดจากเมืองถ่งซานของจีนตอนใต้ โดดเด่นด้วยการใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายและสะดวกต่อการรับประทาน เช่น เนื้อหมูบด ปลา กุ้ง เครื่องในสัตว์ เช่น กะพง มัน ม้าม หรือผักสดต่าง ๆ นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ง่ายต่อการกิน การต้มวัตถุดิบรวมกับน้ำซุปกลมกล่อมจะได้รสชาติที่ดีและช่วยให้รับประทานได้สะดวกรวดเร็ว
6. หม้อไฟกุ้ยหลิน
หม้อไฟกุ้ยหลินมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นกว่าหม้อไฟชนิดอื่น ๆ เนื่องจากใช้น้ำซุปจากมะเขือเทศที่ให้รสเปรี้ยวอมหวาน โดยต้มน้ำซุปจากมะเขือเทศสด มะเขือเทศตากแห้ง พริกแห้ง เป็นต้น ปรุงรสด้วยน้ำปลาและเครื่องเทศต่าง ๆ
ส่วนวัตถุดิบที่นำมาต้มในน้ำซุปมะเขือเทศนี้ ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ เครื่องในสัตว์ต่าง ๆ ผักสดหลากหลายชนิด พร้อมทั้งเต้าหู้และวุ้นเส้น เมื่อต้มรวมกันแล้วจะได้รสชาติเปรี้ยวหวานผสมรสเค็มจากวัตถุดิบอื่น ๆ เข้ากันได้อย่างลงตัว
5 เคล็ดลับทานหม้อไฟให้อร่อย
ได้รู้กันไปแล้วว่าหม้อไฟจีนมีอะไรบ้าง แต่นอกจากน้ำซุปร้อน ๆ กับวัตถุดิบที่สดใหม่ ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ช่วยให้การทานหม้อไฟจีนอร่อยยิ่งขึ้น!
- เลือกน้ำซุปรสกลมกล่อม : น้ำซุปเปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของหม้อไฟ โดยทั่วไปน้ำซุปที่นิยม คือ น้ำซุปกระดูกหมูหรือน้ำซุปกระดูกไก่ที่ต้มจนได้รสชาติเข้มข้นเต็มที่ แต่หากต้องการเพิ่มเสน่ห์ความนัว สามารถใส่เครื่องปรุงอื่น ๆ ลงไปได้ด้วย เช่น เกลือ ซีอิ๊วขาว พริกไทย รากผักชี กระเทียม และขิง เพื่อปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติให้น่าลิ้มลองยิ่งขึ้น
- เน้นทานวัตถุดิบหลากหลาย : หม้อไฟที่อร่อยและได้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ควรประกอบไปด้วยวัตถุดิบหลากหลาย ทั้งเนื้อสัตว์ ผักสด เห็ด และวัตถุดิบอื่น ๆ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ควรเลือกเนื้อที่มีคุณภาพ สดใหม่ ส่วนผักสดก็ควรเลือกผักที่มีใบเขียว ไม่เหี่ยวเฉา หรือเพิ่มเติมด้วยอาหารทะเล เช่น กุ้ง ปลา หมึก ปู เพื่อเสริมรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการให้กับอาหารมื้อนี้
- เตรียมน้ำจิ้มรสชาติเด็ด : สามารถเตรียมน้ำจิ้มได้หลากหลายรสชาติตามที่ชอบ เช่น น้ำจิ้มรสเปรี้ยวหวาน น้ำจิ้มพริกเกลือ น้ำจิ้มกระเทียมพริก เป็นต้น เคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับน้ำจิ้มก็คือ การเพิ่มเติมวัตถุดิบสด ๆ เข้าไปในน้ำจิ้มด้วย เช่น พริกสด น้ำมะนาว ต้นหอม ผักชี ก็จะยิ่งทำให้น้ำจิ้มมีกลิ่นหอมและรสชาติจัดจ้านขึ้นไปอีก
- นำวัตถุดิบลงต้มในหม้อไฟอย่างถูกวิธี : วัตถุดิบประเภทเนื้อสัตว์ควรนำลงต้มก่อนวัตถุดิบประเภทอื่น เพื่อให้สุกพร้อมกัน ทั้งนี้เนื้อสัตว์บางชนิดที่ต้องการความนุ่ม เช่น สันในหรือเนื้อวัว ควรต้มให้พอสุกแล้วจึงค่อยนำออก ไม่ควรต้มนานจนสุกเกินไป ส่วนผักใบเขียวสามารถนำลงต้มเมื่อใกล้จะแล้วเสร็จ สำหรับเห็ด เต้าหู้ วุ้นเส้น ควรต้มจนสุกเต็มที่
- รับประทานพร้อมเครื่องเคียงอร่อย ๆ : เครื่องเคียงแนะนำที่กินคู่กันบอกเลยว่าอร่อยฟิน เช่น ข้าวสวยร้อน ๆ จากหม้อ เกี๊ยวเส้นบางเหนียวนุ่ม ขนมจีบนุ่มฟูสูตรต้นตำรับ หรือจะเป็นเส้นหมี่ผัดกลิ่นหอมฉุยก็ได้ เพื่อช่วยให้การรับประทานหม้อไฟสมบูรณ์แบบและได้อรรถรส
ใครที่อ่านไปท้องร้องไป และอยากลองลิ้มรสหม้อไฟจีนดูบ้าง ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปไกล มาทานได้เลยที่ Mongkok ชิดลม ร้านสุกี้ยากี้หม้อไฟสไตล์จีนและชาบูหม่าล่าชิดลมที่ไลน์อาหารแน่นครบทั้งของคาวของหวาน จัดเต็มมากมายกว่า 200 รายการ จะทานคนเดียวก็ได้ พาเพื่อนมาด้วยก็ดี แวะมาได้เลยที่ The MercuryVille @Chidlom เดินทางสะดวกติด BTS ชิดลม
ข้อมูลอ้างอิง
- ส่องสถานการณ์ธุรกิจหม้อไฟจีน. สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567. จาก https://oldweb.ditp.go.th/ditp_web61/article_sub_view.php?filename=contents_attach/.
- “หม้อไฟ”เมนูยอดฮิตแห่งแดนมังกร. สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567. จาก https://sclc.mfu.ac.th/sclc-5677/sclc-6265/detail/News/13752.html.
- หม้อไฟจีนมีกี่ประเภท และทำไมถึงเป็น หม้อไฟแห่งความสุข. สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567. จาก https://food.trueid.net/detail/WGob8L7qqKB0.